การใช้เครื่องตรวจวัดก๊าซในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

ในปัจจุบันการ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน โดยทั่วโลกมีความต้องการใช้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติถึง 86 % ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้และถูกผลิตจากน้ำมันและก๊าซ เช่น เชื้อเพลิงต่าง ๆ (แก๊สโซลีน น้ำมันดีเซล) และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทางเคมีและปิโตรเคมี ในกระบวนการของน้ำมันและก๊าซ ทั้งการสกัด ขนส่ง และกลั่น ค่อนข้างมีความซับซ้อน และเป็นอันตราย หนึ่งในความอันตรายที่สุดคือการติดไฟ หรือการระเบิดของแก๊สและของเหลวไวไฟ และการรั่วของก๊าซ เนื่องจากการเพิ่มปริมาณของสารเคมีและแก๊สพิษในกระบวนการผลิตถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อระบบหายใจ การเผาไหม้ การเกิดมะเร็ง และการกัดกร่อนของระบบ

เพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิต และทรัพย์สิน บริษัทน้ำมันและก๊าซจึงต้องปฏิบัติตามข้อบังคับด้านความปลอดภัยที่กำหนดไว้ ทำให้มีการนำเครื่องมือที่ช่วยตรวจจับการรั่วของก๊าซมาใช้ ในปัจจุบันระบบตรวจจับก๊าซและเปลวไฟแบบพกพาและแบบติดตั้งถือเป็นระบบที่มีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบพื้นที่ที่เสี่ยงอันตราย เพราะหากระบบเกิดแจ้งเตือน ก็สามารถจัดหาอุปกรณ์ช่วยหายใจหรืออุปกรณ์นิรภัยให้กับพนักงานได้ทันท่วงที ทำให้อันตรายที่เกิดขึ้นน้อยลงกว่าในอดีตมาก

อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ แบ่งออกเป็น 3 ภาคส่วนหลัก ๆ :

  • Upstream: เป็นส่วนของการสำรวจเพื่อค้นหาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ใต้ดิน และใต้ทะเล โดยการเจาะสำรวจ แล้วนำน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติขึ้นมาจากใต้ดิน และจากใต้ทะเล การสำรวจและการผลิตในภาคส่วน Upstream สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งที่อยู่บนบกและนอกชายฝั่ง ในปัจจุบันการสำรวจน้ำมันและก๊าซจากชั้นหินถือเป็นส่วนที่สำคัญมากในภาคส่วนนี้
  • Midstream: ภาคส่วนนี้เป็นส่วนของการขนส่ง (โดยท่อส่งน้ำมัน ระบบราง เรือ รถบรรทุกน้ำมัน) และพื้นที่เก็บน้ำมันและก๊าซที่นำขึ้นมาจากหลุมเจาะเพื่อนำส่งเข้าโรงกลั่นต่อไป
  • Downstream: เป็นส่วนโรงกลั่นที่นำน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเข้าสู่กระบวนการเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ทางปิโตรเลียม เช่น แก๊สโซลีน น้ำมันดีเซล ยางมะตอย น้ำมันก๊าด และ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) บ่อยครั้งมีโรงงานปิโตรเคมีที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทางปิโตรเลียมและก๊าซมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อื่น เช่น เอธิลีน โพรพิลีน เบนซิน บิวทาไดอีน และผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้อื่น ๆ ที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม โรงงานเหล่านี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของภาคส่วน Downstream ด้วย

การตรวจจับการรั่วของก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)

         การรั่วของก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไปในหลายภาคส่วนของอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ จึงมีความจำเป็นในการป้องกันพนักงานให้ปลอดภัยจากอันตรายจากการรั่วของก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) 

สถานที่เสี่ยงเกิดการรั่วของก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)

  • สถานีน้ำมันหรือปั๊มน้ำมัน
  • พื้นที่เก็บน้ำมันสำหรับจำหน่าย
  • โรงงานอุตสาหกรรมในส่วนที่เก็บก๊าซธรรมชาติเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานเชื้อเพลิง

สถานีบริการก๊าซ (ขาย LPG สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง)

ในปัจจุบันมีหลายวิธีที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการรั่วของก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) แต่วิธีที่ได้รับให้แนะนำมากที่สุดคือ การใช้เครื่องตรวจจับก๊าซและเปลวไฟ ซึ่งสามารถแจ้งเตือนหากความเข้มข้นของก๊าซในพื้นที่ไม่ปกติ หรือมีการติดไฟเกิดขึ้น

เครื่องตรวจจับที่ควรใช้ตรวจสอบการรั่วไหลของก๊าซธรรมชาติเหลว (LPG)

          เครื่องตรวจวัดก๊าซที่ได้รับการนำสนอให้ใช้ตรวจจับการรั่วของก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) มีหลายรุ่น ดังนี้

1. OLC-OLCT100

2. PS200

Toxic and Combustible Gas Detector
  • ส่งสัญญาณแบบ Analog โดยไม่มีจอแสดงผล (แสดงผลโดยชุดควบคุม)
  • เป็นเซ็นเซอร์ทั้งแบบ electrochemical, IR, semiconductor และแบบ Catalytic Bead (สามารถวัดการรั่วของ LPG ได้)
  • ออกแบบมาเพื่อใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับรุ่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อติดตั้งในที่อุณหภูมิสูง สามารถปฏิบัติงานในพื้นที่อุณหภูมิสูงสุดถึง 200 อาศาเซลเซียส
Portable 4 gas monitor
  • เป็นแบบพกพา ออกแบบมาเพื่อง่ายต่อการใช้งาน ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา กันน้ำ และมีความแข็งแรงทนทาน
  • ใช้งานง่าย เนื่องจากมีเพียง 2 ปุ่ม
  • มีสัญญาณเตือนแบบเสียง ไฟเตือน และสั่น
  • บันทึกข้อมูลได้สูงสุด 6 เดือน
  • มีฟังก์ชั่นสอบเทียบอัตโนมัติ

สนใจผลิตภัณฑ์ติดต่อได้ที่ : คุณวศิกา โทร. 094-462-6616 และ 092-249-8787 Line ID: @entechsi

Social Share